เรื่องไม่ลับ-ฉบับนักเดินทาง
อิ่มบุญ สุขใจ-ไหว้พระ ขอพร
ตระเวนกิน-เมนูเด็ดต่างแดน
ตามรอยหนังฮิต-ซีรีส์โดนใจ
บันเทิง-และความสนุก
ธรรมชาติ-และการผจญภัย
วัฒนธรรม-และประวัติศาสตร์
อัพเดตสถานการณ์-COVID19
ปลิดปลิว เคว้งคว้าง ชีวิต เหมือนดั่งใบไม้ที่หลุดลอย .. หลายคนอาจจะกำลังอินกับละครใบไม้ที่ปลิดปลิว ไม่ต่างจากแอดมิน เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ของละคร และเข้ากับช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่นที่กำลังจะมาถึงในเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนของทุกปี เราก็เลยมานำเสนอทริปไปท่องเที่ยวที่หาไม่ได้ในไทย อากาศกำลังเย็นสบาย อีกช่วงหนึ่งที่เราสามารถคุมโทนใน Instagram ให้กลายเป็นสีเอิร์ทโทนได้ เรียกว่าถ่ายมุมไหนก็สวย ตรงไหนก็ดูดี แค่มีกล้องมือถือก็สวยได้แล้ว เพราะช่วงเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคมของญี่ปุ่นจะเป็นช่วงหน้าร้อน ที่อากาศร้อนไม่แพ้ประเทศไทย แต่ในอีก 1 -2 เดือนถัดไป จะก้าวเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เรียกว่า เหลือง ส้ม แดง กันทั้งญี่ปุ่น แต่เค้าไม่ได้เปลี่ยนพร้อมกันนะ ต้นไม้ในแถบจังหวัดหรือภูมิภาคต่าง ๆ ของญีปุ่นก็จะเริ่มเปลี่ยนสีไล่มาตั้งแต่ตอนบนสุดของญี่ปุ่นไปจนถึงแถบใต้สุด คล้ายกับเทศกาลซากุระบานนั่นแหละ แต่นักท่องเที่ยวจะน้อยกว่านิดหน่อย เราจึงมีพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี มาฝากสำหรับคนที่อยากไม่อยากพลาดฤดูกาลนี้
เงินพร้อม กายพร้อม แต่เสื้อผ้าไม่พร้อม เราก็จัดนายแบบ - นางแบบมาให้เลือกชม เผื่อเป็นแนวทางในการแต่งตัวไปเที่ยว แบรนด์ที่หาได้ง่าย ๆ อย่าง Uniqlo ก็ได้แล้ว
1. เดือนกันยายน : อุณภูมิโดยเฉลี่ย 22 - 29 องศาเซลเซียส
เรียกว่าแต่สบาย ๆ เหมือนอยู่ในออฟฟิชยังได้เลย เพราะอากาศคล้าย ๆ กับอุณหภูมิห้องแอร์ แค่เสื้อแขนกุด เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด หรือแขนยาวบาง ๆ เพียงตัวเดียวก็เอาอยู่แล้ว หากอยากเพิ่มความเท่ก็สวมทับด้วยเสื้อคลุมบาง ๆ กางเกงขาสั้นหรือยาว ส่วนผู้หญิงก็กระโปรงสีสันที่ตัดกันกับสีของใบไม้ก็จะทำดูโดดเด่นยิ่งขึ้น แต่ถ้าอยากคุมโทนหน่อยก็เหลืองมัสตาร์ด น้ำตาลอ่อน เขียวเข้มก็ไม่เลว ส่วนรองเท้าแฟชั่นได้ตามสบาย ขอแค่เดินแล้วไม่ปวดเท้าก็พอแล้ว เอาเป็นว่าใส่เดือนห้างอย่างไร ก็ใส่แบบนั้นไปกันได้เลย
[ภาพจาก : https://www.uniqlo.com/jp/stylingbook]
2. เดือนตุลาคม : อุณหถูมิโดยเฉลี่ย 16 - 23 องศาเซลเซียส
เริ่มหนาวลงมาอีกนิดหน่อย แต่ยังพอใส่เสื้อผ้าเดินกันแบบชิว ๆ ได้อยู่ สำหรับผู้ชายอาจจะหาเสื้อกั๊ก แจ็คเก็ต คาร์ดิแกน หรือเสื้อคลุมหนาขึ้นมาหน่อยสวมทับเสื้อด้านในอีกชั้นหนึ่ง ผู้หญิงอาจจะเพิ่มเลเยอร์เสื้อคลุมตัวใหญ่ ๆ เสื้อกันหนาวเนื้อผ้าไม่หนามาก กางเกงก็แนะนำเป็นขายาว เช่น ยีนส์หรือชิโน่ ที่ไม่หนามาก เผื่อเดินแล้วร้อนไว้หน่อยก็ดี และเพื่อปิดบังขาแห้งแตกลายจะไม่สวยเอา (ล้อเล่น) หรืออยากดูเก๋ไก๋กว่านั้นลองแมทซ์เสื้อกับกางเกงเป็นสีเดียวกันไปเลย รับรองคุมโคนแบบสุด ๆ รองเท้าแนะนำให้มิดชิด ผ้าใบ รองเท้าหุ้มส้น ก็น่าจะเอาอยู่แล้ว
[ภาพจาก : https://www.uniqlo.com/jp/stylingbook]
สำหรับในช่วงเดือนธันวาคมอุณภูมิจะลดลงมาอีก 1 - 5 องศาแต่คิดว่าเสื้อผ้าที่เราแนะนำไปในเดือนพฤศจิยายนก็ยังพอใส่ได้อยู่ อาจจะลองเช็คอากาศก่อนเดินทางซักเล็กน้อยเผื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีพายุเข้ามาในช่วงนั้น พกร่มหรือเสื้อกันฝนไปด้วยหากมีฝนตกระหว่างไปเที่ยวก็จะได้พอกันเปียกได้ แต่ถ้าใครไปทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เช่น ฮอกไกโดหรือซัปโปโร ก็อาจจะต้องเผื่อใจเอาไว้หน่อยเพราะอากาศที่นั้นจะต่ำลงไป 5 - 10 องศาเลยทีเดียว อย่าลืมพวกลิปมันหรือครีมทาผิวกันแห้งแตกไปด้วยหละ เผื่อหิวแห้งเป็นขลุย ๆ ขึ้นมาจะอดสนุกเอา สำหรับใครที่คิดว่าจะเอาเสื้อผ้าไปเยอะ ๆ ก็กลัวจะต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม แนะนำเสื้อด้านในเป็นสีพื้น ๆ และใส่ซ้ำ (ตัวนอกนะ ส่วนด้านในเปลี่ยนเหอะ ถือว่าขอร้อง) สลับกับเสื้อคลุมด้านนอก ลอง Mix & Match กันดู ก็เป็นอีกออฟชันที่น่าสนใจไม่น้อย และประหยัดพื้นที่กระเป๋าไปได้เยอะด้วย เพราะเดินด้วยอุณภูมิแบบนั้นเหงื่อน่าจะออกยากอยู่ ยัง แต่เรายังไม่ให้จากไปง่าย ๆ เพราะ The First Ultimate มาทั้งทีเราก็ต้องแนะนำสถานที่ถ่ายรูปปังปังและไม่พังอย่างแน่นอน กับสถานที่ที่ไม่ควรพลาดถ่ายรูปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
1. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัน : Hokkaido
สถานที่แรก ๆ ในญีปุ่นที่ใบไม้เริ่มจะเปลี่ยนสี ไปทั้งทีรับรองไม่เสียเวลา เพราะเราสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าดูป่าของสวนที่แห่งที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีจากเขียว เหลือง ส้ม แดงเป็นหย่อม ๆ เริ่มจากยอดเขาคุโรดาเกะ (Kurodake) ไล่ลงมาเรื่อย ๆ และจุดแนะนำที่คุณสามารถชมใบไม้แดงได้สวยที่สุด จะอยู่ตรงปากทางขึ้นเขาที่เรียกว่า กินเซ็นได นอกจากนี้ยังสามารถหาออนเซ็นธรรมมชาติแถวนั้นแช่เพื่อให้ดื่มด่ำกับสีของใบไม้ที่เปลี่ยนไปของที่นี่ให้มากที่สุด
2. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ : Chubu
ใครว่าที่นี่จะเหมาะกับการชมฟูจิซังเพียงอย่างเดียวคิดผิดแล้วหละ เพราะตรงนี้แหละที่เป็นอีกมุมจุดถ่ายรูปที่สวยไม่แพ้ฤดูหนาว โดยใบไม้แดงแถบนี้เกือบทั้งหมดเป็นใบของ ต้นโมมิจิ หรือเมเปิ้ล ที่ตัดกับสีขาว ฟ้าของฟูจิซัง และในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มที่ จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบโมมิจิขึ้น ทุกค่ำคืนจะประดับไฟสวยงาม ให้คุณสามารถเดินถ่ายรูปได้ทั้งวันทั้งคืนและรอบทะเลสาปแห่งนี้เลย
3. ภูเขาอาราชิยามะ : Kansai
อีกหนึ่งโลเคชันที่ถ่ายรูปออกมาได้สวยไม่แพ้ที่อื่น เพราะมีทั้งวิวแม่น้ำ สะพานโทเง็ทสึเคียว และป่าไผ่ให้คุณได้เลือกถ่ายรูปตามใจชอบ หรือหากใครอยากชมวิวสวย ๆเพราะแถวนั้นมีอีกสถานที่ขึ้นชื่อให้คุณได้เลือกชม วัดคิโยมิซุ วัดกิงคาคุจิ ศาลเจ้าชิโมงาโมะ วัดนันเซ็นจิ เป็นต้น แต่หากใครที่เดินจนเมื่อแล้วแนะนำว่าลองนั่งรถไฟตรงนั้นดูก็ได้ รับรองบรรยากาศข้างทางฟินฝุด ๆ
4. สวนสาธารณะโมมิจิดะนิ : Chugoku
ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ ในฮิโรชิมะ ภายในในสวนแห่งนี้มีต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) อยู่ทั่วบริเวณ อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปคู่กับสะพานโมมิจิ ถ้าคุณไปในช่วงกลางถึงปลายเดอืนพฤศจิกายนของทุกปี จะได้พบกับเทศกาลชมใบไม้แดง อย่าลืมแวะซื้อของฝากขึ้นชื่อของฮิโรชิมะ “โมมิจิมันจู” ขนมไข่รูปโมมิจิ มาชิมดู เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศมากขึ้นหรือจะซื้อเป็นของฝากก็ไม่เลว
หวังว่าเพียงแค่นี้ก็พอจะยั่วน้ำลายสายถ่ายรูปได้ไม่น้อย จองตั๋ว หาที่พักและเที่ยวญี่ปุ่นกันเลย แน่นอนว่าไปญี่ปุ่น จะเที่ยวไปกี่ครั้งก็ยังติดใจกับผู้คน วัฒนธรรม ธรรมชาติและความสะดวกสบายของรถสาธารณะ ยิ่งช่วงนี้ค่าเงินถูกลงอีกน่าถูกใจสาวกญีปุ่นอยู่ไม่น้อย หรือใครอยากลองเช่าชุดยูกาตะหรือกิโมโนเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย ส่วนแอดมินนั้นขอตัวไปดูละครต่อก่อนแล้วกันนะ แล้วพบกันใหม่
เที่ยวสวนสนุก เป็นความฝันอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัย ตามสไตล์ของแต่ละแห่งที่แตกต่างกันออกไป เราจะพาไปเที่ยว 10 สวนสนุกเด็ดๆ ของญี่ปุ่น ที่ไปได้ไม่ยาก ว่ามีที่ไหนกันบ้าง
ฉลองครบรอบ 90 ปี Mickey Mouse การรถไฟคิวชู หรือ JR Kyushu เปิดตัวการท่องเที่ยวด้วยรถไฟชินคันเซ็นขบวนพิเศษ Go! Waku Waku Trip with MICKEY เริ่มวิ่ง 17 พ.ค. 2019
เมืองคิวชู ถือเป็นอีกเมืองทางใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่มีคนนิยมไปเที่ยวมาก รองจาก ฟุกุโอกะ แต่จะเที่ยวยังไงไม่ให้พลาดที่เด็ดๆ จนคุณต้องร้อง อู้ว..หูว.. มาดูว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง