06/26/2019 BY ADMIN The First Ultimate

      Country Road, Make me home. To the place .. พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเสียค่าลิขสิทธิ์ เอาหละ ! สำหรับใครที่เบื่อการท่องเที่ยวแบบเดิม ๆ ขึ้นรถ ลงเรือ ปีนเขา ห้อยกระเช้า และเดินจนเหงื่อชุ่มไปหมดทั้งตัวแล้ว อยากลองหาวิธีเที่ยวแบบใหม่ ๆ Road Trip หรือการขับรถแล่นไปบนถนน ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะไปกันแบบเพื่อนกลุ่มใหญ่ ไปกับครอบครัว หรือไปสวีทกับแฟนกันสองต่อสอง แต่ในทริปนี้เราแนะนำให้ไปกับคนที่รักรักจะดีกว่า เพราะสิ่งที่ท่านจะได้รับชมต่อไปนี้ มันโรแมนติกมว๊ากกกก .. 

ถนนสายที่ 1 : The Atlantic Roadway in Norway

    “Stunning Road” เป็นคำบรรยายที่เหมาะสมที่สุดกับถนนเส้นนี้ เพราะได้รับสมญานามเรื่องความสวยของบรรยากาศตลอดสองข้างทาง ประหนึ่งว่าคุณขับรถอยู่กลางมหาสมุทร ที่ข้ามจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่ง ถึงแม้ระยะทางจะสั้นแค่ 5 ไมล์ แต่เรียกได้ว่าเกินคุ้ม ถนนสายนี้เปิดให้ใช้งานตั้งแต่ปี 1989 เพื่อเชื่อมต่อเมือง Molde และ Kristiansund ถึงแม้เส้นทางคดเคี้ยวไปหน่อย แต่ไม่ได้ทำให้บรรยากาศในการชมวิวของสองข้างทางถนนเส้นนี้ลดลงไปตามไปด้วย ยิ่งได้มากับคนที่คุณรัก อย่าเผลอพูดไปหละว่า "You make me stunning like this road"

ถนนสายที่ 2 : The Overseas Highway in Florida

     ถนนเส้นที่ถูกขนานนามว่า "เส้นทางสู่ทะเล" ที่ถูกสร้างขึ้นที่ตั้งแต่ปี 1930 แม้จะถูกพายุเฮอริเคนทำลายบางส่วนในปี 1935 แต่ก็ถูกซ่อมแซมจนสำเร็จ ตลอดระยะ 113 ไมล์ ที่ทอดยาวจากฟลอริดา ไปทางตะวันตก ข้ามทะเลกับยังเกาะต่าง ๆ คุณจะได้พบวิวเกาะและทะเลที่ถนนเส้นนี้ทอดผ่าน ทั้งขาไปและขากลับ แต่หากอยากได้บรรยากาศโรแมนติกมากขึ้น ลองมาขับรถเล่นช่วงพระอาทิตย์ตก แสงแดดที่กำลังจะลับขอบฟ้ากระทบกับน้ำทะเล จะทำให้คุณอินสุด ๆ หรือจะลองเดินจูงมือคนที่คุณรักเดินลัดเลาะตามแนวถนน เผื่อจะทำให้ความรักของคุณหวานจนน้ำทะเลกลายเป็นน้ำเชื่อมได้แน่อน     

ถนนสายที่ 3 : The Ruta 40 in Argentina

    หากคิดว่าถนนเส้นที่ผ่านมาสั้นไป ยังขับรถได้ไม่จุใจ เราแนะนำเส้นทางนี้เลย Ruta 40 เพราะเป็นถนนที่ยาวที่สุดในอาร์เจนติน่า ระยะทาง 3,045 ไมล์ ซึ่งข้ามผ่านทะเลสาป 13 แห่ง แม่น้ำอีก 28 สาย และ 20 อุทยานแห่งชาติและเขตป่าสงวน ที่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งโล่งกว้าง ภูเขาน้ำแข็ง ป่า หรือชั้นหินสลับซับซ้อนกันไป มีข้อจำกัดตรงที่บางช่วงของถนนอาจจะมีดินลูกรังปะปนอยู่บ้าง ดังนั้นระมัดระวังในการเดินทางด้วยนะ .. ลองเปิดเพลงคลอ ๆ แล้วร้องด้วยกัน 2 คนไปจนสุดถนน น่าจะเป็นกิจกรรมน่าสนใจไม่น้อย หรือจะแวะลงมาถ่ายรูปสักหน่อยก็เวิร์คอยู่นะ

ถนนสายที่ 4 : The Cabot Trail in Canada

     ลัดเลาะเรียบภูเขาและทะเลสาป ตลอด 185 ไมล์ที่คุณขับผ่าน จะได้พบกับต้นไม้เขียวขจีน้อยใหญ่ที่ขึ้นตามแนวเขา เส้นทางนี้จะโค้งไปตามขอบด้านเหนือของ Cape Breton ที่สามารถเดินไปยังร้านอาหารแกลเลอรี พิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่ง ให้เลือกดูเลือกชมกับตามอัธยาศัย หากขับรถจนเหนื่อยลองเอามาเดินป่าในแถบนั้น รับรองว่าจะได้รูปสวย ๆ ไว้ดูไม่น้อย แต่หากคุณขับมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้เหล่านั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงได้บรรยากาศโรแมนติกมากขึ้น หรือหากมาในช่วงฤดูหนาวก็สามารถขับสโนว์โมบิลได้อีกด้วย เรียกว่ามาฤดูไหนก็สามารถหากิจกรรมทำได้ทุกฤดู

ถนนสายที่ 5 : The Great Ocean Road in Australia

     เรียกได้ว่าเป็นถนนเส้นหนึ่งที่สวยติดอันดับโลก ฟากหนึ่งของถนนคุณจะได้เห็นวิวมหาสมุทร สลับกับวิวหินปูนขนาดใหญ่ที่โผล่พ้นน้ำทะเลออกมาทักทายผู้มาเยือน เรียกกันว่า 12 อัครสาวก ส่วนอีกฝั่งจะเป็นภูเขาสลับกับต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมอยู่ ถนนสายนี้ในชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียผ่านจาก Torquay จนถึง Warranbool ระหว่างทางมีร้านอาหารพิพิธภัณฑ์ชายฝั่ง Shipwreck, อุทยานแห่งชาติ Great Otway ชายหาดรวมถึงจุดเล่นกระดานโต้คลื่นและเส้นทางชมวาฬ ให้คุณลองทำกับคนที่คุณรักได้อีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก
  - https://10mosttoday.com
  - https://butlerandmessier.com/planning-a-road-trip-this-summer-here-are-four-reasons-why-seeking-the-right-auto-