07/09/2019 BY ADMIN The First Ultimate

    เชื่อแน่ว่าสายวิ่งมาราธอนทั้งมือสมัครเล่นหรือมือาชีพ คงจะวิ่งตามสถานที่ต่าง ๆ ในไทยที่ติดอันดับทั้งเรื่องของความสวย การจัดการ สภาพอากาศ จนเบื่อแล้ว หากเบื่อบรรยากาศเดิม ๆ และพอมีตังค์เหลือ (เหลือเยอะเลย) แนะนำให้คุณลองไปงานวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศดูซักครั้ง เพราะคุณจะได้สัมผัสงานวิ่งระดับโลก เผลอ ๆ อาจจะได้เจอนั่งวิ่งที่คุณชื่นชอบ นักวิ่งจากนานาชาติ หรือ นักวิ่งงานดีที่ซ่อนตัวอยู่ ได้ไปวิ่งด้วย ได้แฟนไปด้วย แต่ถ้าคิดว่าไม่ได้แน่นอนลองเบนความสนใจไปที่เงินรางวัลดูซิ อาจได้เที่ยวต่อเป็นเดือนเลยทีเดียว .. วิ่งทีเดียวได้นกสามตัวเลยนะเออ เราจึงได้รวบรวมสถานที่สวย ๆ ที่เรียกว่าติดอันดับมาให้คุณได้คัดเลือก ว่าอยากได้แฟนจากประเทศไหน ไม่ใช่สิ ! ว่าอยากไปที่ไหน ไกล ใกล้ ตามสถานการณ์การเงินในกระเป๋าคุณ และแต้มบุญที่สั่งสมมา เพราะที่ส่วนใหญ่จะอาศัยการสุ่ม อย่ารอช้า … เอาแต้มบุญออกมาใช้กันจ้า

Chicago Marathon 

ค่าสมัคร : 220 USD (6,800 บาท) 

รับสมัคร : พฤศจิกายน (ปีก่อนหน้า) 

วันแข่งขัน : ตุลาคม 

แต้มบุญ : ไม่ต้อง อาศัยแต้มไว (ตามลำดับลงทะเบียน) 

เงินรางวัล : 800,000 USD (27 ล้านบาท)

รองรับนักวิ่ง : 45,000 คน  

    1 ใน 3 งานวิ่งที่จัดขึ้นในสหรัฐฯ และถ้าปีนี้คุณได้สิทธิ์แต่ดันไม่ว่าง สามารถเลื่อนได้ 1 ปี ไปงานวิ่งอื่น ๆ ในสหรัฐ ทั้ง London, Berlin หรือ Chicago แน่นอนว่าติดอันดับเรื่องมาตรฐานเส้นทาง สิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งเครื่องดื่ม เกลือแร่ ตลอดเส้นทาง เริ่มวิ่งจาก Scenic Grant Park ผ่าน Lincoln Park มุ่งตรงสู่ Lakeview ก่อนจะไปต่อที่ West Loop และ Little Italy ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ South Michigan Avenue คุณจะวิ่งผ่านจุดสำคัญต่าง ๆ ในเมือง หากไม่อยากวิ่งมาราธอน งานนี้ก็มีระยะทางอีกหลายระยะทางให้เลือกวิ่งได้ตามใจชอบ เป็นสาเหตุในงานวิ่งนี้เงินรางวัลแน่นและขยายใหญ่อย่างต่อเนื่องทุกปี และเป็นรายการที่ผู้พิการสามารถลงแข่งแบบวิลแชร์ได้อีกด้วย ถ้าชอบรายการนี้ก็สมัครโลดจ้า

Berlin Marathon 

ค่าสมัคร : 125 EUR (4,300 บาท)

รับสมัคร : ตุลาคม (ปีก่อนหน้า)

วันแข่งขัน : กันยายน 

แต้มบุญ : 1:2 ลบด้วย fast track 

เงินรางวัล : 230,000 EUR (8 ล้านบาท)

รองรับนักวิ่ง : 40,000 คน 

     รายการวิ่งที่มี fast track ในตัว หากเป็นผู้ชายวิ่งได้ที่ 2 ชั่วโมง 55 นาที และ เป็นผู้ชาย 3 ชั่วโมง 20 นาที แน่นอนถ้าคุณใช้เวลานานกว่านี้ ก็ต้องอาศัยดวง ทั้งแบบเดี่ยวแบบกลุ่มเราก็มีให้เลือก ที่นี่เป็นหนึ่งในสนามที่มักมีนักวิ่งมาทำลายสถิติเรื่อย ๆ และอาจกดดันไม่ใช่น้อย ด้วยอากาศสบาย ๆ 12 - 18 องศา ทางเรียบเยอะ และโค้งค่อนข้างน้อย รูทวิ่งสวย เริ่มจากอาครัฐสภา The Reichstag ไปยัง สวนเทียร์การ์เตน (Tiergarten) จัตุรัสพอสดัมเมอร์ พลัตซ์ (Potsdamer Platz) ได้วิ่งผ่านประตู Brandenburg (ที่เคยเป็นประตูกั้นฝั่งตะวันออกและตะวันตกของกำแพงเบอร์ลิน ก่อนที่จะถูกทำลายไป) พระราชวัง Charlottenburg ตลอดจนสถาปัตยกรรมของอาคาร พิพิธภัณฑ์ และวิวทิวทัศน์ของเยอรมัน เรียกได้ว่าเก็บครบจบใน 1 มาราธอน และเป็นอีก 1 มาราธอนที่หากใครพลาด ก็ยอมเสียเงินบริจาคเพิ่ม เพื่อให้ได้มาวิ่งในงานนี้

New York Marathon 

ค่าสมัคร : 358 USD (11,000 บาท) 

วันสมัคร : กุมภาพันธ์ 

วันแข่งขัน : พฤศจิกายน 

แต้มบุญ : 1:2 

เงินรางวัล : 650,000 USD (20 ล้านบาท)

รองรับนักวิ่ง : 50,000 คน 

     สถานที่ต่อมาย้ายไปไกลหน่อย New York Marathon งานมาราธอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองหลวงของสหรัฐฯ งานวิ่งที่ได้รับความสนใจจากทั้งอาชีพและมือสมัครเล่น ซึ่งจะเปิดรับสมัครในช่วงกุมภาพันธ์ของทุกปี ก่อนจะวิ่งจริง ๆ ในช่วงพฤศจิกายน สิ่งดึงดูดของงานวิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นเงินรางวัลมากกว่า เพราะเยอะกว่าทุกงานที่เคยมีมา จุดออกตัวจะอยู่ที่เกาะ Staten Island ที่อยู่ทางใต้ของ Manhattan ข้ามสะพาน Verrazano-narrow (สะพานที่ยาวที่สุด) ขึ้นไปยัง Brooklyn ก่อนจะสู่ Long Island ข้ามเกาะ Roosevelt และไปจบที่ Central Park และไม่ต้องกลัวว่าจะเหงา เพราะมีคนติดตามดูคนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนแน่นอน วิ่งยั่ว ๆ ไม่ต้องกลัวเหงาเลยจ้า

London Marathon 

ค่าสมัคร : 80 GBP (3,000 บาท) 

รับสมัคร : พฤษภาคม (ปีก่อนหน้า) 

วันแข่งขัน : เมษายน

แต้มบุญ : 1:10 

เงินรางวัล 121,000 GBP (4.6 ล้านบาท)

รองรับนักวิ่ง 40,000 คน 

     อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเกิดขยะจากงานวิ่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่ทางผู้จัดได้พยายาม ลดปริมาณลง ใช้ซ้ำให้มากขึ้น และเน้นวัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ มาใช้กับงานวิ่งครั้งนี้ เรียกว่าวิ่งด้วย ได้บุญด้วยรักษ์โลกด้วยอีกต่างหาก สำรหับรูทวิ่งก็จะออกตัวที่เมือง Blackheath มุ่งไปยัง Charlton Woolwich กลับมายัง Greenwich ข้าม Tower Bridges และแม่น้ำ Thames ก่อนมุ่งหน้าไปยัง London และสิ้นสุดที่พระราชวัง Beckingham แต่ส่วนใหญ่ที่คนมักจะมาลงวิ่งแข่งรายการนี้กันมักจะมาในสายคอสเพลย์หรือแฟนซี ที่ดูเฮฮาไม่ใช่น้อย รวมถึงมีดารามาวิ่งอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังมีเชื้อพระวงศ์ของอังกฤษมาร่วมในพิธีเปิดด้วย ถ้าอยากรู้ว่าเมืองผู้ดีเค้าจะตามมาเชียร์มาชมเราตอนวิ่งด้วยไหม๊ อันนี้ต้องขอบอกว่าจัดเต็มไม่น้อยกว่ามาราธอนที่อื่น ๆ เลย ว่าเลยลองสมัครกันเลยแล้วกัน 

Tokyo Marathon 

ค่าสมัคร : 12800 JYP (3800 บาท) 

รับสมัคร : สิงหาคม 

วันแข่งขัน : ปลายกุมภาพันธ์ - ต้นมีนาคม 

แต้มบุญ : 1:10 

เงินรางวัลราว : 17,000 JYP (6 ล้านบาท) 

รองรับนักวิ่ง : 30,000 คน 

     สถานที่ใกล้ ๆ แถบบ้านเรา เมืองท่องเที่ยวสุดฮิตของคนไทย อย่างญี่ปุ่น  ไม่เพียงแค่ร่างกายของคุณที่พร้อมแล้วจะได้ไปเพราะคุณยังต้องทนทานอากาศหนาวได้ด้วย การวิ่งที่อุณหภูมิ 1 - 2 เหงื่อจะไม่ทันได้ไหลได้เป็นแน่แท้ แต่เรารับรองว่าคุณจะคุ้มค่ากับการรอคอย เพราะด้วยการจัดการของทีมงาน ชาวญีปุ่นและกองเชียร์ของที่นี่จะให้การต้อนรับคุณเป็นอย่างดี รวมถึงสถานที่วิ่งก็เป็นถนนเรียบ ๆ วิ่งผ่านจุดสำคัญของโตเดียวเช่นย่านชินจุกุ วัดอาซากุสะ อย่าเผลอแวะวิ่งไปช้อปปิ้งแทนหละ เอาเป็นว่าฟิตร่างกาย ๆ ทนหนาวได้ และมีแต้มบุญถึง ก็สามารถไปได้แล้ว

Boston Marathon 

ค่าสมัคร : 250 USD (7,800 บาท) 

รับสมัคร : กันยายน (ปีก่อนหน้า) 

วันแข่งขัน : เมษายน 

แต้มบุญ : ไม่สามารถใช้ได้ เพราะต้องเก็บสถิติจากรายการอื่นก่อนหน้า 

เงินรางวัล 150,000 USD (4.6 ล้านบาท) 

รองรับนักวิ่ง 27,000 คน 

     รายการวิ่งมาราธอนที่เก่าแก่ที่สุดและดีที่สุดในโลก ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการวิ่งโอลิมปิค ฤดูร้อน ซึ่งก่อนที่จะสมัครลงรายการนี้ได้ คุณต้องผ่านการแข่งขันจากสนามอื่นที่ได้รับการรับรองมาก่อน จึงจะมีสิทธิ์เข้ามาวิ่งที่นี่ เปิดรับสมัครเป็นล็อตจากสถิตความเร็วที่คุณทำได้ เช่น ล็อตแรก 2 ชั่วโมงครึ่ง เปิดให้สมัครและปิด จากนั้นเพิ่มทีละ 10 นาทีจึงจะเปิดล็อตต่อไปให้สมัครเป็นล็อต ๆ ไป โดยจะสตาร์ทที่ Hopkinton Framingham วิ่งเข้าสู่ Newton เพื่อไปยังจุดที่ได้ชื่อว่าหินที่สุด เขาตรอมใจ (Heartbreak Hill) มีลักษณะเป็นเส้นทางเนินลาดสูง 800 กิโลเมตร ก่อนจะมาถึงยัง Brookline ก็จะเข้าสู่เส้นทางวิ่งบนถนน Boylston ในเมือง Boston ซึ่งเป็นจุดเส้นชัย และเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่ให้ผู้พิการใช้วีลแชร์ลงแข่งขันได้ด้วย ระหว่างทางอาจจะเจอลมปะทะ หรือฝนตกบ้าง แต่ก็สร้างความท้าทายในนักวิ่งไม่น้อย เอาเป็นว่ามือสมัครเล่นข้ามรายการนี้ได้เลย 

     หากคุณสามารถเก็บครบจบทั้ง 6 สนาม คุณจะได้กลายเป็นหนึ่งใน Six-Star Finisher ที่จะขึ้นในทำเนียบ Hall of frame นอกจากเหรีญแต่ละสนามที่คุณได้มาแล้ว ยังจะได้รับเหรียญที่ระลึกอันเป็นสัญลักษณ์การวิ่งมาราธอนครบทั้ง 6 สนามและ Certificate ที่รองรับว่าคุณผ่านการลงสมรภูมิรบทั้ง 6 สนามมาเป็นที่เรียบร้อย ส่วนข้อมูลเรื่องค่าสมัคร ตัวเลขนักวิ่งและเงินรางวัลเป็นการอ้างอิงจากปีก่อนหน้า อาจมีขึ้นลงหรือผันผวนตามสปอนเซอร์ หรือค่าเงินบาทในปีนั้น ๆ หรือถ้าใครเป็นสายเปย์แล้วไม่อยากไปต่อคิวสมัคร บางงานเค้าก็จะมีให้ผู้ที่บริจาคเงินตามจำนวนที่เค้ากำหนดไว้ก็ลงวิ่งได้แล้ว ยังไงก็อย่าลืมฟิตร่างกายให้พร้อม ลงรายการวิ่งมาราธอนแถวบ้านเราก่อนก็ได้ ถ้าคิดว่าสถิติดีพอค่อยไปคว้าชัยในงานระดับโลกนะ รอฟังชื่อคนไทยทำลายสถิติอยู่จ้า

ขอบคุณภาพจาก
  - https://www.vrunvride.com