10/17/2019 BY ADMIN The First Ultimate

     ไม่นานมานี้เราได้ข่าวของประเทศเพื่อนบ้านอย่างญีปุ่น ที่มีพายุที่ใหญ่ที่สุดในโลกพัดขึ้นฝั่ง เราก็ได้เห็นความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวญี่ปุ่นที่เตรียมพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ ตลอดจนการฟื้นฟูหลังจากเหตุวาตภัยครั้งใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม (ขอชื่นชม) และเชื่อแน่ว่าอีกไม่นานญี่ปุ่นจะคืนสู่สภาพให้สมกับเมืองแห่งการเที่ยวอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เราจะพาไปพบกับอีกหนึ่งเทศกาลที่ใหญ่ระดับโลกไม่แพ้พายุที่ผ่านมา นั่นก็คือ เทศกาลไฟประดับของประเทศญี่ปุ่น ครั้งที่ 21 ประจำปี 2019 - 2020

 

     หลายคนอาจจะคุ้นชินกับภาพของเพื่อน ญาติ พี่น้อง หรือเพจรีวิวท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เป็นภาพอุโมงค์ไฟประดับนับล้านดวงที่ระยิบระยับตัดกับสีท้องฟ้าที่มืดสนิทยามค่ำคืน จะบอกว่าภาพที่คุณเห็นนั่นก็คือภาพของอุโมงค์ไฟขอเทศกาลนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีในเดือนตุลาคมของแต่ละปีจนถึงเดือนพฤษภาคมปีถัดไป ณ Nagashima Resort ในเมืองคุวานะ จังหวัดมิเอะ ใกล้ ๆ กับเมืองนาโกย่า สามารถเดินทางมาได้ทั้งจากรถเมล์หรือรถไฟใต้ดินก็ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

     ราคาค่าตั๋วเข้าชมอยู่ที่ 2,300 เยน แต่จะได้รับคูปองแทนเงินสด 500 เยน อีก 2 ใบ เพื่อสำหรับใช้ซื้ออาหารและสินค้าภายในงาน โดยเทศกาลนี้จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 9 โมงเช้า (ไม่ได้เปิดให้บริการทุกวัน จะปิดในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว) หากไม่อยากเดินเหนื่อยทั้งวัน แนะนำให้เข้าชมประมาณบ่าย 3 เพื่อจะได้ถ่ายรูปกับดอกไม้ในช่วงกลางวัน เราจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ของพรรณไม้นานาชนิด ที่ประดับตกแต่งได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นใบของต้นเมเปิ้ลที่เปลี่ยนเป็นสีส้มแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สีสันของดอกทิวลิปที่พากันแบ่งบานในช่วงฤดูหนาว ไปจนถึงดอกซากุระที่บานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ใครที่เหนื่อยจากการชมวิวบนภาคพื้น ก็สามารถเปลี่ยนขึ้นไปยืนยังจุดบริการชมวิวที่เรียกว่า Island Fuji ที่จะพาคุณขึ้นไปชมวิวแบบ Bird Eye View แบบ 360 องศา สูง 45 เมตรจากพื้น หากเดินจนเมื่อยขาก็สามารถแวะไปแช่เช้าที่ได้ Foot Spa กันก่อน ถ้าหิวเราก็สามารถนำคูปองที่ได้มากับตั๋วเข้าชมไปซื้ออาหารทานกันได้ตรงสวนด้านหลัง มีร้านอาหารหลากหลายให้คุณได้เลือกชิม เลือกทาน ทั้งฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น คาเฟ่ และร้านของฝากน่ารัก ๆ หรือจะไปชม Botanical Garden สวนดอกไม้ในโรงกระจกที่เคลมมาว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโตไกด้วยก็ได้

     ในแต่ละวันไฟที่เริ่มเปิดในเวลาแตกต่างกัน ซึ่งสามารถดูได้จากป้ายด้านตรงทางเข้าได้เลยและเมื่อถึงเวลา ไฟประดับตกแต่ง LED มากกว่า 8 ล้านดวง ทั่วทั้งพื้นที่ 210,000 ตารางเมตร ก็จะสว่างไสวในพริบตา ได้เวลาเปลี่ยนโหมดกล้องเป็นกลางคืนแล้วเริ่มรัวชัตเตอร์กันอีกครั้ง เริ่มจากไฮไลท์แรกก็คืออุโมงค์ประดับไฟ ความยาวประมาณ 200 เมตร ที่ทอดยาวไปทางสวนด้านหลังและเป็นที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและถ่ายภาพมากที่สุด เมื่อเดินทะลุมาจะจบพบกับอีกหนึ่งจุดชมวิวยามค่ำคืนเป็นบันไดเดินขึ้นไปยังตัวจุดชมวิวยกตัวขึ้นสูงจากพื้นพอสมควรให้เราได้ชมวิวยามค่ำคืนที่ประดับตกแต่งด้วยไฟประทับจากมุมสูง ลัดเลาะมาตามเส้นทางเรื่อย ๆ เราจะพบกับส่วนแสดงภาพแบบ LED และทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ ให้คุณชมได้แบบเพลิน ๆ ตามธีมในแต่ละปี ที่จะแตกต่างกันออกไป ก่อนจะพบกับอีกอุโมงค์ไฟประดับถึงแม้จะขนาดเล็กกว่าอุโมงค์แรก อุโมงค์นี้เปลี่ยนสีได้นะ ใครที่อยากอัดวิดีโอก็ขอแนะนำในจุด ๆ นี้ อีกหนึ่งโซนที่ไม่ควรพลาดมากที่สุดคือสะพานข้ามแม่น้ำและอาคารสไตล์ยุโรปตลอดจนต้นไม้ที่ประดับตกแต่งด้วยไฟประดับตลอดสองข้างทาง อย่าลืมชมจนเพลินลืมเวลาปิดเพราะสวนนี้เปิดให้บริการเข้าชมถึงแค่ 3 ทุ่มในวันจันทร์ - ศุกร์ และ 4 ทุ่มตรง ในวันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้น

 

 

     แนะนำก่อนไปอย่าลืมเช็คสภาพอากาศ วันไหนฝนตกหรือแดดจ้า จะได้แต่งตัวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในตอนนั้น เช็ควันเปิด - ปิดของสวนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะปิดในวันเทศกาล เช่นคริสต์มาสหรือปีใหม่ เป็นต้น เช็คเส้นทางเดินรถหากจำเป็นต้องกลับดึก และท้ายที่สุดเตรียมเมมโมรี่กล้องให้พร้อมเพราะรับรองว่าคุณจะได้ภาพกลับมาแบบหลายพันรูปอย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพจาก
- https://trip101.com/
- https://www.travelbeginsat40.com/event/nabana-no-sato-winter-light-festival-japan-2020/ 
- https://connieandluna.com/2017/06/nabana-no-sato-flower-filled-place-like-no/