04/22/2020 BY ADMIN The First Ultimate

ในขณะที่โลกของเราก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ สถานที่ต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป CNN จึงได้จัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในปี 2020 เราจึงหยิบมาแนะนำให้ได้ชมกัน กับ  "20 ที่เที่ยวน่าไป ปี 2020 | Part 1"

1. ชิลีเลคดิสทริค
(Chile Lake District), Chile

ตั้งอยู่กับเทือกเขา Andes ห่างจากเมืองซันติอาโก (Santiago) ไปทางทิศใต้ 500 กม. ชิลีเลคดิสทริค อยู่ในแคว้นโลส ลาโกส (Los Lagos) ภูมิภาคนี้มีทะเลสาบสวยๆ อยู่หลายแห่ง บางแห่งอาจมีภูเขาไฟเป็นฉากหลัง มีอุทยานแห่งชาติ และกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้ง ที่น่าสนใจ ที่พิเศษสุดก็คือ ในวันที่ 14 ธันวาคม ปี 2020 นี้ เวลา 13.03 น. ตามเวลาท้องถิ่นของชิลี ณ เมือง Pucón จะเกิดสุริยุปราคาแบบเต็มดวง ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนที่นี่ พร้อมวิวภูเขา และทะเลสาบเป็นฉากหลัง สวยงามไปอีกแบบ ซึ่งการเกิดสุริยุปราคาไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยๆ จึงมีการจัดทัวร์เพื่อไปดูมากมาย

2. โคเปนเฮเกน 

(Copenhagen), Denmark

เมืองโคเปนเฮเกนถูกจัดเป็นเมืองหลวงของหนึ่งในประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือ วัฒนธรรมอันสวยงาม การปั่นจักรยาน ตึกอาคารร้านค้าสีสันสดใส ร้านอาหารที่ทันสมัย ในฤดูหนาวห้ามพลาดที่จะเล่นสกี และสโนว์บอร์ด ที่ลานสกีเทียม Copenhill สร้างอยู่บนหลังคาโรงไฟฟ้าโรงงานขยะ

3. ทะเลสาบเดดซี
(The Dead Sea)

ทะเลสาบเดดซี หรือ ทะเลมรณะ ตั้งอยู่ระหว่างอาณาเขตประเทศจอร์แดน และอิสราเอล เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมาก เป็นบริเวณที่มีพื้นดินที่ต่ำที่สุดในโลกซึ่งต่ำกว่าน้ำทะเลประมาณ 400 เมตร หากไปเยือนแล้วจะต้องไปพอกโคลนดำ และนอนทำท่าปลาดาวหงายในเดดซี ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึง แต่ผลจากวิกฤตการณ์ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำในทะเลสาบลดลงเรื่อยๆ จากที่นี่เคยอยู่ในลิส "สถานที่ๆ ต้องไปให้ได้สักวัน" ต้องเปลี่ยนเป็น "สถานที่ๆ ที่คุณต้องไปตอนนี้!"

4. รัฐโดมินิกา
(Dominica)

ประเทศเกาะเล็กๆ ด้านตะวันออกของทะเลแคริบเบียน มีขนาดใหญ่กว่าเกาะภูเก็ตเล็กน้อย ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ และนักปีนเขา มีแหล่งธรรมชาติชั้นดี ทั้งป่าฝนเขียวชอุ่ม ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้หนาทึบ และหุบเหวลึกสลับกับแม่น้ำ 365 สาย จึงได้สมญานามว่า "Nature Island" หากไปเยือนแล้วอย่าพลาดที่จะไปดำน้ำดูแนวปะการัง และสัตว์ทะเลที่นี่

5. เอสโทเนีย
(Estonia)

เอสโตเนีย เป็นประเทศเล็กๆ (ขนาดประมาณรัฐนิวยอร์ก) มีประชาการไม่มาก อยู่ทางทิศเหนือจะติดกับอ่าวฟินแลนด์ ทิศตะวันตกติดกับทะเลบอลติก ทิศใต้ติดกับประเทศลัตเวีย เป็นที่รู้จักด้วยด้านสถาปัตยกรรมที่งดงามไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ด้านที่เที่ยวทางธรรมชาติก็ไม่แพ้กัน มีทั้ง ภูเขา เกาะ ทะเลสาบ หน้าผาหินปูน และป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์สุดๆ 

6. กัลเวย์
(Galway), Ireland

ได้รับการขนานนามว่า เมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรปปี 2020 เป็นเมืองท่าขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศไอร์แลนด์ อากาศจะร้อนกว่าทางทิศตะวันออก  เป็นดินแดนชนบทที่ผู้อาศัยอยู่กันตามกฎของตัวเอง จิตรกรจะหลุมรักความสวยงามของวิว หน้าผาหิน ที่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่า มีถนนน่ารักๆ และที่เที่ยวอยู่เต็มเมือง มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการเที่ยวชมแลนด์มาร์คสวย จะไปช้อปปิ้ง หรือไปชมธรรมชาติก็ได้อยู่

7. จาไมกา
(Jamaica)

เป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลแคริบเบียน จาไมก้าเป็นที่เลื่องลือของอัญมณีธรรมชาติ และกลิ่นอายของแอฟริกันที่เต็มไปด้วยสีสัน ใรด้านธรรมชาติที่ขึ้นชื่อมีทั้ง ชายหาดสีทอง ภูเขาเขียวชอุ่ม ทะเลสีฟ้าคราม แนวปะการัง ป่าฝน และแม่น้ำ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่าง การเดินป่า ดูนกในป่า และดำน้ำดูปะการัง ไม่น่าเชื่อว่า สถานที่ทั้งหมดที่กล่าวมา จะรวมอยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งนี้

8. คีร์กีซสถาน
(Kyrgyzstan)

เป็นประเทศทางเอเชียกลาง ขึ้นชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งภูเขาน้ำแข็ง” อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และยังมีอาณาเขตติดกับประเทศคาซัคสถาน ประเทศทาจิกิสถาน และประเทศอุซเบกิสถานด้วย ที่นี่เป็นดินแดนที่มีความสวยงามทางธรรมชาติแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ มีภูมิประเทศแบบหุบเขาทะเลทราย คล้ายแกรนด์แคนยอน ของอเมริกา มีภูเขาสูง มีทุ่งหญ้าอยู่บนเทือกเขาสูงคล้ายเทือกเขาแอลฟ์ในยุโรป ในช่วงฤดูร้อนจะมีกิจกรรมเดินป่า ปีนเขา และขี่ม้า ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะเล่นสกีกัน แถมยังมีวัฒนธรรมแบบชนเผ่ามองโกเลียให้ได้ชมกันด้วย

9. คิวชู
(Kyushu), Japan

เป็นเกาะที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะหลักอย่างฮอนชู อยู่ทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น มีเมืองฟุกุโอกะเป็นเมืองหลักของภูมิภาค มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติที่สวยงาม เนื่องจากอากาศที่อบอุ่นกว่าช่วงตอนบนของประเทศ ทำให้ภูมิภาคนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีชื่อเสียงในเรื่องอาหาร วิวชายทะเลที่สวยงาม วิวนาข้าวขั้นบันไดอันสวยงาม และยังเป็นเมืองแหล่งน้ำพุร้อนที่สำคัญที่สุดของประเทศอีกด้วย นอกจากนั้ยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการทิ้งระเบิดปรมาณูที่นางาซากิ

10.  นิวแคลิโดเนีย
(New Caledonia)

หลายคนคงจะตั้งคำถามว่า "New Caledonia นั้นอยู่ที่ไหน?" ประเทศเปิดใหม่ปี 2018 ที่แยกออกมาจากฝรั่งเศส อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ใกล้กับออสเตรเลีย ชมความงามของสีน้ำทะเล หาดทรายสีขาว และพระอาทิตย์ตกดินสีชมพู ผืนป่าที่มีต้นไม้อายุกว่า 1,000 ปี เกาะนี้ล้อมรอบด้วยแนวปะการังซึ่งมีความยาวถึง 1600 กิโลเมตร ทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นลากูนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (The largest lagoon in the world) จึงเป็นเสน่ห์เย้ายวนเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเยือนที่เกาะแห่งนี้ ไปนอนอาบแดดให้ผิวแทนสวยกันได้เลย

อ่านต่อ Part 2 กับ  "20 ที่เที่ยวน่าไป ปี 2020 | Part 2" กดที่นี่

       ข้อมูล และภาพจาก :

    - https://edition.cnn.com/travel/article/places-to-visit-2020/index.html     
    - https://www.agoda.com/th-th/travel-guides/ireland/galway?cid=1844104    
    - https://www.chileanbucketlist.com/total-solar-eclipse-2020-pucoacuten-lake.html 
    - https://desertadventures.com/destination/dead-sea/