TRAVEL STYLE
เรารู้ว่าคุณชอบท่องเที่ยว แต่ ณ ขณะนี้ คุณชอบท่องเที่ยวสไตล์ไหน
15 สุดยอดเมืองภูเขาในยุโรป... ที่ควรค่าแก่การไปเยือน
03/05/2020 BY ADMIN The First Ultimate


'ยุโรป' จุดหมายที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝัน ด้วยทิวทัศน์ที่สวยจับใจ ราวกับดินแดนในเทพนิยาย ใครไปเยือนแล้วต่างก็หลงเสน่ห์กันทั้งนั้น สัมผัสบรรยากาศ "15 สุดยอดเมืองภูเขาในยุโรป... ที่ควรค่าแก่การไปเยือน" แล้วคุณจะต้องเก็บสักเมืองไว้ใน Bucket List ของคุณแน่นอน!


1. เมือง Innsbruck ประเทศออสเตรีย



    ถือได้ว่าเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) เป็นเมืองศูนย์กลางกีฬาฤดูหนาวของยุโรปเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาฤดูหนาวหลายครั้ง และเมืองนี้สามารถเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ได้ตลอดทั้งปี ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง จะปีนเขา เดินป่า เล่นสกี หรือหากใครไม่ใช่สาย Adventure ก็สามารถเดินชิวๆ รอบเมือง เดินชมสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงก็เพลินดีเหมือนกัน


2. เมือง Zermatt ประเทศสวิตเซอร์แลนด์




    เมืองแซร์มัท (Zermatt) อยู่ทางใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ใกล้ๆ กับชายแดนประเทศอิตาลี ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ยอดเขาที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ เป็นสัญลักษณ์ของช็อคโกแลตยี่ห้อดังอย่าง Tobleron ก็อยู่ในเมืองนี้เช่นกัน ในช่วงฤดูร้อนคุณสามารถเดินสำรวจเส้นทางเดินป่ากว่า 400 กิโลเมตร (250 ไมล์) แล้วเมื่อกลับเข้ามาในเมือง อย่าลืมหาเครื่องดื่มดีๆ สักแก้ว แล้วไปนั่งจิบในลานกว้างๆ ที่มีฉากหลังเป็นยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น


3. เมือง Chamonix ประเทศฝรั่งเศส




    เมืองชาโมนิกส์ (Chamonix) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมือง Zermatt ห่างจากเมือง Chamonix ประมาณ 2 ชั่วโมง รอบๆ เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยหุบเขา สวยงามสุดในยุโรป เหมาะกับผู้ที่ต้องการสำรวจเทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่ตั้งของยอดเขามองบลังซ์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ หากคุณอยากจะทดสอบทักษะของการเล่นสกี เมืองชาโมนิกส์คือคำตอบ


4. เมือง Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 




    ซูริค (Zurich) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) กับทะเลซูริค  อาคารบ้านเรือนในซูริคยังคงเอกลักษณ์ของบ้านเมืองในยุคกลาง ถือเป็นเมืองที่ครบรส คุณสามารถเอ็นจอยกับวัฒนธรรม อาหาร และแสงสียามค่ำคืน ในอีกมุมหนึ่งคุณสามารถใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยการเดินป่าบนภูเขาใหญ่ยักษ์ในเทือกเขาแอลป์โดยใช้เวลาประมาณ 2 ช.ม. ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก แต่ก็ยังมีกิจกรรมหลายๆ อย่างที่ฟรี หรือจ่ายได้ในราคาไม่แพง อย่าลืมไปชมวิวบนภูเขายูเอทลิเบิร์ก (Uetliberg) ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองซูริคได้ 360 องศา และสามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดู


5. เมือง Grenoble ประเทศฝรั่งเศส




    ไกลออกไปทางใต้มีพื้นที่ติดกับเทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส เป็นที่ตั้งของเมืองที่งดงามอย่าง เมืองเเกรอน็อบส์ (Grenoble) ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม ทำให้เมืองนี้มีฉายาว่า 'Capital of the Alps' หรือ เมืองหลวงแห่งเทือกเขาแอลป์ เลยทีเดียว ถือเป็นเมืองที่ทันสมัยที่สุดในฝรั่งเศส อยู่ในช่วงที่กำลังเฟื่องฟู เพราะดึงดูดธุรกิจที่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นเมืองที่เหมาะกับการมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดกับเพื่อนๆ หรือคนสำคัญ


6. เมือง Reine ประเทศนอร์เวย์




    ลองดูรูปเมืองไรเนอ (Reine) ก่อน! แล้วเก็บเมืองนี้ไว้ในลิสเมืองที่ต้องไปในยุโรป เป็นหนึ่งในเมืองภูเขาที่สวยที่สุดในโลก หมู่บ้านประมงเล็กๆ ทางภาตเหนือของนอร์เวย์อยู่ห่างไกล และเข้าถึงได้ยาก แต่มันก็คุ้มค่ากับการที่ได้เห็นสิ่งสวยงามด้วยตาของเราเอง ในหมู่บ้านมีประชากรเพียงแค่ 300 กว่าคนเท่านั้น ชาวบ้านยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมเอาไว้ และยังมีการจับปลาจนถึงปัจจุบัน ประกอบความงดงามของบ้านไม้แสนอบอุ่นสีขาว แดง และดำ อันเป็นเอกลักษณ์ รอให้คุณไปค้นหา


7. เมือง Torla ประเทศสเปน




    เมืองตอร์ลา หรืออีกชื่อก็คือ Torla-Ordesa เมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์แห่งนี้อยู่ทางภาคเหนือของสเปน เป็นหนึ่งในเมืองภูเขาที่ดีที่สุดในยุโรปสำหรับการสำรวจ เมื่อพูดถึงอาหาร? ... มุ่งหน้าไปที่ La Brecha เพื่อรับประทานเนื้อแกะย่างซึ่งเป็นอาหารที่เพอร์เฟคสุดๆ หลังจากเดินป่ามาทั้งวัน ช่างรู้สึกดีเสียจริงๆ


 8. เมือง Hallstatt ประเทศออสเตรีย




    ฮัลล์ทัทท์ (Hallstatt) เป็นเมืองในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย (Upper Austria) ได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก สวยจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997 จุดเด่นของเมืองริมทะเลสาบสีน้ำเงินนี้ก็คือ เทือกเขาสูงตระหง่านล้อมรอบทะเลสาบสีฟ้าใส โดยมีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ทางฟากตะวันตกของ ทะเลสาบฮัลล์สตัทเทอร์ (Hallstatter See)  ด้วยอากาศที่แสนบริสุทธิ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ


9. เมือง Cesky Krumlov สาธารณรัฐเช็ก




    ผู้คนเป็นมิตร ทิวทัศน์อันสวยงาม กับเบียร์ดีๆ สักแก้ว ฟังดูแล้วเหมือนสวรรค์ คุณเคยได้ยินชื่อเมืองนี้ไหม "เซสกี ครุมลอฟ (Cesky Krumlov)" คุณจะไม่สามารถเจอเมืองนี้ในไกด์บุ๊คต่างๆ  แต่นั่นทำให้เมืองนี้ดูพิเศษไปเลย  เมืองเซสกี ครุมลอฟ อยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐเช็ค ได้ฉายาว่าเป็น เมืองไข่มุกแห่งโบฮีเบีย ที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามจนได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ 


10. เมือง Varenna ประเทศอิตาลี




    วาเรนนา (Varenna) เมืองริมฝั่งทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ในแคว้น Lombardy ของอิตาลี อยู่ไปทางเหนือของ เมืองมิลาน เพียง 60 กม. เป็นเมืองที่ดีในการทำกิจกรรม Adventure ไม่ว่าจะเป็นเดินเขา ขี่จักรยานบนเขา นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ริมน้ำสวยๆ มีอาหารอร่อยๆ มีถนนเล็กๆ และเหล่าภูเขาเป็นฉากหลัง สำหรับช่างภาพ...เมืองนี้เป็น 1 ในเมืองภูเขาในยุโรปที่ดีที่สุด


11. เมือง Salzburg ประเทศออสเตรีย




    ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เมืองเล็กๆ ในอ้อมกอดของภูเขา ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ คือบ้านเกิดของคีตกวีเอกของโลก วูฟกังก์ อมาเดอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) และเป็นฉากของภาพยนตร์เพลง มนต์รักเพลงสวรรค์ (The Sound of Music) ภาพยนตร์คลาสสิคตลอดกาลอันเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก เมืองนี้งามราวกับเมืองในเทพนิยาย จนได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้


12. เมือง Bled สาธารณรัฐสโลวีเนีย




    เมืองเบลด (Bled) เมืองเล็กๆ เมืองแห่งปราสาท (โบสถ์) ที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบเบลด (Lake Bade) สุดแสนจะโรแมนติก อยู่ท่ามกลางหุบเขาจูเลียนแอลป์ อย่าพลาดที่จะไปชมปราสาทเบลด (Bled Castle) ที่อยู่บนภูเขา และต้องตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ของหมู่บ้านด้านล่าง ในช่วงฤดูร้อนต้องไป วินท์การ์ จอร์จ (Vintgar Gorge) ธารแม่น้ำสีสวย มีน้ำตกและฝายกั้นน้ำที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในเทพนิยาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย สามารถมาเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ หรือจะมาดื่มด่ำบรรยากาศ ถ่ายรูปสวยๆ ก็ย่อมได้


13. เมือง Interlaken ประเทศสวิตเซอร์แลนด์




    กิจกรรม Adventure ชนิดไหนที่คุณกำลังมองหา? คุณสามารถเจอได้ในเมืองอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) ไม่ว่าจะเป็นปีนเข่า สกี หรือจะเป็นพาราไกลดิ้ง (Paragliding) ช่างเป็นอะไรที่ท้าทาย จนผู้คนทั่วโลกถึงกับต้องเดินทางมาหาประสบการณ์กันที่นี่ 


14. เมือง Olden ประเทศนอร์เวย์ 



    เมืองโอลเดน (Olden) ตั้งอยู่ใจกลางนอร์เวย์  เป็น 1 ใน สถานที่ๆ ดีที่สุดในนอร์เวย์สำหรับการดูฟยอร์ด (fjords) ที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ ในช่วงฤดูร้อนอย่าพลาดที่จะไปเยือนนอร์เวย์ และพายคายัค (kayak) ไปตามแม่น้ำ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชมฟยอร์ดอย่างใกล้ชิด และเป็นส่วนตัว


15. เมือง Sintra ประเทศโปรตุเกส




    ซิงตรา (Sintra) เป็นเมืองพักตากอากาศที่ได้รับการจัดให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอันแสนสวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตัวเมืองอันร่มรื่นท่ามกลางหุบเขา ธรรมชาติอันสวยงามทั้งภูผา และมหาสมุทร อย่าลืมไปชม Pena Palace ปราสาทที่ก่อตั้งบนภูเขาสูงตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ที่มีสีสันอันแสนฉูดฉาด และความยิ่งใหญ่อลังการณ์




ขอบคุณภาพจาก :

https://www.tourist-destinations.com/2011/08/innsbruck-austria.html 
https://adventurebase.com/tour-du-mont-blanc/adventure-hiking-chamonix-6/
https://www.gq-magazine.co.uk/article/things-to-do-in-zurich 
https://i.pinimg.com/originals/bc/12/9f/bc129fca9668cbc93b62e995653cb6d2.jpg 
https://huaban.com/pins/2668745459/
https://www.shutterstock.com/video/clip-1015381912-4k-timelapse-footage-torla-village-sunset-time 
https://www.roughguides.com/destinations/europe/italy/ 
https://astoria.com/en/events/alles-fur-den-gast-2018/ 


 


6248 views

ตารางท่องเที่ยวมงคลประจำวันเกิด

อยากเที่ยวยุโรป แต่เลือกประเทศไม่ได้ ไม่รู้จะเที่ยวไหนดี ลองเลือกเที่ยวตามวันเกิดดูซิ ! เราจัดให้เน้น ๆ 7 วัน 7 ประเทศ

มนต์เสน่ห์ ที่ทำให้ตกหลุมรัก ออสเตรีย

ประเทศเล็กๆ ในยุโรป ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของธรรมชาติ และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ เพราะพื้นที่เกินกว่าครึ่งเป็นภูเขา แต่ละเมืองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของที่นี่

10 ปราสาท สมัยยุคกลาง ที่งดงามราวกับดินแดนในเทพนิยาย

ปราสาทเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ไว้ดึงดูดผู้คนทั่วโลกเท่านั้น ยังมีเรื่องราว และร่องรอยของประวัติศาสตร์สั่งสมมานับร้อยๆ ปี ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้มากมาย แล้วคุณจะต้องตะลึง!